ภาษี เป็น เงินที่ได้จากการหักจากรายได้ของประชนชนที่มีรายได้มาทั้งปีมาเป็นส่วนจ่ายให้แก่หน่วยงานของรัฐบาลเพื่อนำไปใช้เพื่อการปรับปรุงประเทศ ซึ่งๆหน้าที่ของราษฎรในขณะนี้ การเสียภาษีอากรเองก็เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของกระบวนการทำหน้าที่พลเมืองที่ดี เพราะเหตุว่าการเสียภาษีอากรนั้นจะหักไปใช้จ่ายเพื่อดูแลและก็ปรับปรุงในเรื่องของเศรษฐกิจของสังคมให้ดำรงอยู่ได้
ซึ่งจำนวนเงินที่พลเมืองจำเป็นที่จะต้องจ่ายภาษีคำนวณจากค่าถัวเฉลี่ยรายได้ต่อปีของแต่ละบุคคล โดยมีลำดับดังต่อไปนี้
1. รายได้ตั้งแต่ 0 – 150,000 บาท ไม่ต้องจ่ายค่าภาษีอากร
2. รายได้ตั้งแต่ 150,001 – 300,000 บาท จำต้องเสียภาษีอากร 5% จากรายได้ต่อปี
3. รายได้ตั้งแต่ 300,001 – 500,000 บาท จะต้องเสียภาษีอากร 10%จากรายได้ต่อปี
4. รายได้ตั้งแต่ 500,001 – 750,000 บาท จำเป็นต้องเสียภาษีอากร 15%จากรายได้ต่อปี
5. รายได้ตั้งแต่ 750,001 – 1,000,000 บาท จำต้องเสียภาษีอากร 20%จากรายได้ต่อปี
6. รายได้ตั้งแต่ 1,000,001 – 2,000,000 บาท จำเป็นต้องเสียภาษีอากร25% จากรายได้ต่อปี
7. รายได้ตั้งแต่ 2,000,001 – 5,000,000 บาท จะต้องเสียภาษีอากร 30%จากรายได้ต่อปี
8. รายได้ตั้งแต่ 5,000,001 บาทเป็นต้นไป จำเป็นต้องเสียภาษีอากร 35%จากรายได้ต่อปี
จากจำนวนของการหักภาษีนี้ ทำให้มองเห็นได้ว่าแม้ยิ่งมีรายได้ต่อปีที่มีเยอะๆเท่าไร ก็จะต้องเสียภาษีอากรให้แก่รัฐบาลเพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์และก็หน้าที่ของประชาชนที่ดี ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเงินที่มีอยู่ให้รัฐบาลได้รู้ จากการที่มียอดจ่ายภาษีที่จำเป็นต้องเสียของบุคคลจำนวนมากก็เลยนำไปสู่การหลบหลีกที่จะไม่จ่ายภาษีให้แก่รัฐบาล ซึ่งเกิดเรื่องแม้มีการทำก็ถือว่าเป็นการกระทำผิดที่คนทั่วๆไปจะต้องมีการจ่ายภาษีให้แก่รัฐบาล โทษมีตั้งแม้กระนั้นปรับไปจนกระทั่งติดตะราง หรือแม้กระทั้งคนที่ไม่ต้องจ่ายค่าภาษีอากรเองนั้นถ้ามิได้มีการ แสดงยอดรายได้ทั้งปีให้แก่รัฐบาล ก็มีโทษปรับค่าทำขวัญให้ เนื่องจากมีเจตนาที่จะปกปิดรายได้ของตัวเอง แล้วก็ควรต้องแสดงรายได้ทั้งปีให้กรมสรรพมือได้รู้
สำหรับเพื่อการยื่นใบรายได้ทั้งปีที่ไม่ต้องเสียภาษีอากรนั้น จะมียอดเงินรายได้ทั้งปี 120,000 บาทในเรื่องที่มีสถานภาพไม่มีแฟน ถ้ามีคู่รักจะมียอดเงินรายได้ทั้งปี 220,000 บาท จำเป็นจะต้องที่จำต้องยื่นใบแสดงรายการภาษีให้แก่สรรพมือ เพื่อตรวจดู กรมสรรพมือเป็นกรมที่ดูแลในเรื่องเกี่ยวกับการคำนวณภาษีของพลเมืองที่ต้องมาจ่ายในแต่ละบุคคล รวมทั้งส่งต่อภาษีที่ได้รับมาให้แก่รัฐบาล เอาไปใช้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงและก็ดูแลประเทศ
โดยเหตุนั้นแล้วการยื่นใบแสดงรายการภาษี หรือการจ่ายภาษีนั้นควรต้องทำเพื่อแสดงหน้าที่ของประชาชนที่จะต้องเสียภาษีอากรให้แก่รัฐบาลเพื่อนำไปปรับปรุงรวมทั้งบริหารประเทศ ซึ่งการยื่นใบแสดงรายการภาษีเองนั้นทางกรมสรรพแขนจะนำรายการภาษีของแต่ละบุคคลไปกระทำทำประเมินรายได้ของพสกนิกรโดยรวมของประเทศทำให้ได้รู้ถึงสภาพการณ์ทางด้านเศรษฐกิจและก็การเป็นอยู่ในขณะนี้ว่าการเป็นอยู่เป็นในทางที่ดีหรือเปล่าดีนั้นเอง